23 เมษายน 2568…ในยุคที่เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงภาคอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAID บริษัทในกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและยั่งยืนในประเทศไทย โดยนำแนวคิด “Smart Eco Industrial Estate” มาเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาโครงการต่างๆ
ปัจจุบัน WHAID ได้พัฒนา 16 นิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยและในเวียดนาม บนพื้นที่รวมกว่า 78,500 ไร่ บนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการลงทุนหลักของประเทศ ทำให้ WHAID สามารถรองรับความต้องการของนักลงทุนที่หลากหลายอุตสาหกรรมได้อย่างครบวงจร
แนวคิด Smart Eco Industrial Estate คือการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมโดยการนำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด (Operational Excellence) พร้อมส่งเสริมนวัตกรรมทั้งระบบ Eco System ของอุตสาหกรรมให้ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
6 เสาหลักของแนวคิด Smart Eco Industrial Estate
WHAID ได้นำแนวคิด Smart Eco Concept มาประยุกต์ใช้ผ่าน 6 เสาหลักสำคัญ ดังนี้
1. Smart Facility
นิคมอุตสาหกรรมของ WHAID ได้นำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้ในการบริหารจัดการสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในนิคมฯ เช่น ระบบควบคุมและการจัดการคุณภาพอากาศ (Air Quality Control) ที่ใช้ตรวจวัดคุณภาพอากาศของนิคมอุตสาหกรรมให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดในรายงาน EIA
2. Smart Water
การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นหนึ่งในความสำคัญสูงสุดของ WHAID โดยได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำอย่างครบวงจร ตั้งแต่ระบบตรวจวัดคุณภาพน้ำแบบเรียลไทม์ ระบบบำบัดน้ำเสียที่ทันสมัย และระบบการนำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วกลับมาใช้ใหม่ (Reclaimed Water) เพื่อลดการใช้ทรัพยากรน้ำและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีระบบเตือนภัยน้ำท่วมและการบริหารจัดการน้ำในภาวะวิกฤติเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจของผู้ประกอบการ
3. Smart Security
ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ดับบลิวเอชเอจึงได้พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะที่ครอบคลุมทั้งนิคมอุตสาหกรรม ประกอบด้วย ระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะพร้อมการวิเคราะห์ภาพด้วย AI ระบบตรวจจับ ระบบควบคุมการเข้าออกด้วยเทคโนโลยี (License Plate Recognition) และศูนย์ควบคุมความปลอดภัยที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าทรัพย์สินและบุคลากรของผู้ประกอบการได้รับความปลอดภัยสูงสุด
4. Smart Communication and Services
WHAID ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่ทันสมัย เพื่อรองรับการเชื่อมต่อและการสื่อสารในยุคดิจิทัล ประกอบด้วย เครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านระบบไฟเบอร์ออปติกใต้ดิน เครือข่าย 5G ที่ครอบคลุมทั่วทั้งนิคมฯ และแพลตฟอร์มการสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริหารนิคมฯ เช่น LBMS แพลฟอร์มเพื่องานบำรุงซ่อมอาคาร และ WHAsApp คือ Super App ที่รวบรวมบริการของ WHA Group ไว้ในที่เดียว เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการบริการและข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว
5. Smart Power
การบริหารจัดการพลังงานเป็นอีกหนึ่งเสาหลักสำคัญ โดย WHAID ได้พัฒนาระบบพลังงานที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในนิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ ระบบส่องสว่างโดยใช้ Solar Street Light การผลิตพลังงานสะอาดจากแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาอาคาร (Solar Rooftop) และระบบติดตั้งแผงโซลาร์ลอยน้ำ (Solar Floating) ในพื้นที่บ่อน้ำดิบในเขตนิคมอุตสาหกรรม อีสเทิร์น ซีบอร์ด (ระยอง) (ESIE) เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
6. Smart Mobility
ส่งเสริมให้มีการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) แทนรถยนต์สันดาปในการปฏิบัติการ การเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าอุตสาหกรรมเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าและสถานนีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ที่สำคัญขาดไม่ได้ คือการบริหารจัดการด้านการจราจรและการขนส่งภายในนิคมอุตสาหกรรม WHAID พร้อมทั้งพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะ เช่น Vehicle Management System (VMS) ที่สามารถจัดการจราจรและสัญญาณไฟ เพื่อเพิ่มความคล่องตัว ลดความแออัด และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางภายในนิคมฯ รวมถึงการติดตั้งระบบสถานีชาร์จไฟสำหรับยานพาหนะไฟฟ้า ที่จะเข้ามาทดแทนรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในอนาคต
นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 5: โมเดลแห่งอนาคต
นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 5 (WHA ESIE5) ตั้งอยู่ในตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นโครงการล่าสุดของ WHAID บนพื้นที่ในเฟสที่ 1 จำนวน 4,000 ไร่ ที่โดดเด่นด้วยการนำแนวคิด Smart Eco Industrial Estate มาประยุกต์ใช้อย่างเต็มรูปแบบ
Smart Eco Industrial Estate คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ WHA ESIE5 เป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งอนาคตอย่างแท้จริง ด้วยการบูรณาการเทคโนโลยีล้ำสมัยครบทั้ง 6 ด้าน ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการและชุมชนโดยรอบ
คุณปจงวิช พงษ์ศิวาภัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ยังได้เน้นย้ำถึงจุดเด่นของ WHA ESIE 5 ว่ามีความโดดเด่นด้านทำเลที่ตั้งและโครงข่ายคมนาคมที่สะดวก ตั้งอยู่บนทางหลวงสาย 3191 กับทางหลวงสาย 3143 ทำให้สามารถเดินทางไปท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดและท่าเรือแหลมฉบังได้อย่างรวดเร็ว
ยิ่งไปกว่านั้น นิคมฯ แห่งนี้ยังสะท้อนแนวคิด Smart Eco Industrial Estate ที่ไม่ได้จำกัดเพียงการสร้างนิคมอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาให้เกิดความเป็น “เมืองอัจฉริยะเชิงนิเวศ” โดยวางแผนพัฒนาที่พักอาศัย (Residential Zone) และพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Commercial Zone) ควบคู่ไปด้วย เช่นเดียวกับความสำเร็จจากการพัฒนา ESIE และ WHA ESIE 1 เนื้อที่เกือบ 20,000 ไร่ ที่อำเภอปลวกแดง เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ที่เริ่มต้นจากการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมก่อน แล้วจึงพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นเมืองที่มีความเจริญอย่างเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ การที่ WHA ESIE5 ตั้งอยู่ใกล้กับสถาบันการศึกษาที่สำคัญ อาทิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง และวิทยาลัยเทคนิคบ้านค่าย หนึ่งในต้นแบบของสถาบันอาชีวศึกษาที่ใช้หลักสูตร EEC Model Type A ที่มุ่งเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรม สร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม เพื่อผลิตบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีขั้นสูงตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง
WHA: WE Shape the Future
การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมตามแนวคิด Smart Eco Industrial Estate ของ WHAID มิใช่เป็นนิคมอุตสาหกรรมทั่วไป แต่เป็นการพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมอัจฉริยะที่สร้างสมดุลระหว่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเติบโตทางเศรษฐกิจ และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจหลักขององค์กรว่า”WHA: WE Shape the Future” ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทยและภูมิภาค