25 สิงหาคม 2564…Maëlle Gavet CEO ของ Techstars กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สร้างโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยตระหนักดีว่าการปลูกฝัง ESG ให้เข้าไปอยู่ในกระบวนการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนสนับสนุนให้ผู้ประกอบการทำเช่นเดียวกัน จะช่วยเพิ่มคุณค่าโดยรวมขององค์กร คะแนน ESG และผลตอบแทนทางการเงิน มีความสัมพันธ์เชิงบวก
ประเด็นข้างต้นเป็นเรื่องของ Eversend สตาร์ทอัพด้านการเงินการธนาคารของแอฟริกา Stone Atwine ผู้ประกอบการชาวยูกันดา ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO กำลังสนองความต้องการจริง จากการที่ชาวแอฟริกันมากกว่า 60% ไม่มีบัญชีธนาคาร น้อยกว่า 3% มีประกัน มีเพียง 7% เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงสินเชื่อ และประชาชนต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงถึง 31% สำหรับการโอนเงินข้ามพรมแดน
ในฐานะผู้ประกอบการ Stone มีประสบการณ์การระดมทุน (ในปี 2020 บริษัทที่มีผู้ก่อตั้งเป็นคนผิวดำ ได้รับทุนจากVenture Capital ของสหรัฐเพียง 3%) ดังนั้นบริษัทจึงหันไประดมทุนจากคราวด์ฟันดิ้ง และได้รับเงินจำนวน 550,000 ยูโร (644,000 ดอลลาร์) โดยใช้เวลาเพียงสองวัน ได้โอกาสเร่งทำงาน และเข้าไปอยู่ในลิสต์บริษัทชั้นนำ
Eversend กำลังมองไปข้างหน้าเกี่ยวกับการทำธุรกิจเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ความต้องการชำระเงิน และอื่น ๆ เกี่ยวกับผลกระทบที่คาดการณ์ได้ และบันทึกเป็นเอกสารจากภาวะโลกรวน บริษัทอยู่บนเส้นทางการเป็น “ธนาคารยุคใหม่สำหรับชาวแอฟริกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก” ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า เพราะถือว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัจจัยที่จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจของพวกเขา
นี่คือสิ่งที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้น ยามใดก็ตามที่บริษัทใด ๆ สร้างคุณค่าเรื่อง ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) จากจุดเริ่มต้น นี่เป็นเหตุผลที่อนาคตของธุรกิจจะถูกกำหนดโดยบริษัทอย่าง Eversend ซึ่งเห็นการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นและรวมไว้ใน Business Model ของพวกเขา
และนี่คือเหตุผลที่ Techstars เพิ่งลงนามในหลักการของการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ (UN PRI) ในฐานะนักลงทุน บริษัทเข้าใจดีว่า การสนับสนุนเรื่อง ESG เป็นธุรกิจที่ดี
ในภาพรวม เศรษฐกิจโลกกำลังถูกก่อร่างสร้างใหม่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังเปลี่ยนแปลงกายภาพของโลกอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติกำลังสร้างดิจิทัลรูปแบบใหม่ และหมายความว่าโซลูชันแบบเดิมๆจะใช้ไม่ได้ เพราะต้องเผชิญกลไกตลาดใหม่ และล้มเหลวในการปรับตัว บริษัทใหม่ซึ่งลงลึกเรื่อง ESG ในโมเดลธุรกิจพร้อมที่จะเป็นยักษ์ใหญ่ในทศวรรษหน้า ขณะที่ UN PRI ได้ให้คำแนะนำแก่นักลงทุนสถาบันว่าให้คำนึงถึงประเด็น ESG ในการลงทุนของพวกเขาด้วย
ทั้งนี้ การศึกษาเชิงวิชาการมากกว่า 2,000 ฉบับ ระบุความสัมพันธ์ระหว่าง ESG กับประสิทธิภาพทางการเงิน โดย 70% ตอบว่า คะแนน ESG และผลตอบแทนทางการเงิน มีความสัมพันธ์เชิงบวก
นอกจาก Eversend แล้ว Techstars ยังสนใจแง่มุมอื่นด้วย เพราะโรคระบาดทั่วโลกที่มีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน ทำให้ชุมชนคนผิวสีมีเหตุผลที่จะไม่ไว้ใจผลศึกษาทางการแพทย์ เป็นโอกาสของบริษัทอย่าง Acclinate ซึ่งกำลังสร้างความไว้วางใจให้กับประชากรเหล่านี้ เพราะความเร่งด่วนบอกถึงขนาดของโอกาสทางธุรกิจ
ขณะเดียวกัน Pipeline Equity ก็กำลังใช้ประโยชน์จากโอกาสในการแก้ไขความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงาน ผู้หญิงจำนวนมากออกจากงาน ในทางตรงกันข้าม ช่วงไม่ถึง 3 ปีข้างหน้า สหรัฐอเมริกาจะเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานถึง 5 ล้านคน สหรัฐฯ ส่งผลต่อ GDP มูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์
Pipeline Equity จึงใช้ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์เพื่อขับเคลื่อนแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ ให้คำแนะนำแก่บริษัทที่เป็นลูกค้าของพวกเขา ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพทางการเงิน และช่วยให้ผู้หญิงเติบโตในอาชีพการงาน
บริษัทที่ให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนเป็นแกนหลักก็มองเห็นโอกาสเช่นเดียวกัน ในอินเดีย Craste ผลิตและจำหน่ายวัสดุบรรจุภัณฑ์และเฟอร์นิเจอร์จากเศษพืชที่เกษตรกรจะนำไปเผา บริษัทให้รายได้เสริมแก่เกษตรกร พร้อมทั้งลดมลพิษทางอากาศ นอกจากนั้น Anheuser-Busch InBev ก็กำลังนำร่องใช้บรรจุภัณฑ์แบบ 6 แพ็คกับ Craste ด้วย
ทั้งนี้ Techstars ตระหนักดีว่าการปลูกฝัง ESG ให้เข้าไปอยู่ในกระบวนการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนสนับสนุนให้ผู้ประกอบการทำเช่นเดียวกัน จะช่วยเพิ่มคุณค่าโดยรวมขององค์กร นอกจากนั้นการสนับสนุนคนทุกกลุ่ม โดยมุ่งเน้นผู้มีบทบาทน้อยและขาดโอกาสเงินทุน ทำให้เกิดธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทางการเงินมากขึ้น ซึ่งสามารถสร้างความมั่งคั่งรุ่นต่อรุ่นในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า
ที่มา