พฤศจิกายน 26,2025…SCG ROOF EXPERT ร่วมขับเคลื่อน Zero Waste ด้วยการสนับสนุน UddC-CEUS จุฬาฯ และสสส. กรุงเทพมหานคร ส่งต่อวัสดุเหลือใช้จากงานก่อสร้างให้กลายเป็นแปลงผักและห้องเรียนกลางแจ้งในโรงเรียน 5 แห่ง สร้างพื้นที่สุขภาวะและต้นแบบความมั่นคงทางอาหารที่ขยายผลได้จริงในเมืองใหญ่
โครงการ “พัฒนาพื้นที่สุขภาวะด้วยแนวคิดเกษตรในเมือง: กลไกบูรณาการเชิงนโยบายเพื่อสร้างพื้นที่สุขภาวะ และพื้นที่ส่งเสริมความมั่นคงและความปลอดภัยทางอาหารของกรุงเทพมหานคร” เดินหน้าสร้าง “สวนเกษตรในเมือง” ต้นแบบรวม 5 แห่งในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ผ่านกิจกรรมเปิดตัวสวนและอบรมความรู้ “โรงเรียนของเราน่าปลูก” มีนักเรียน ครู ชุมชน และหน่วยงานภาคีเข้าร่วมอย่างคึกคัก
โครงการนี้ดำเนินการโดย ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์เมือง (UddC-CEUS) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กรุงเทพมหานคร บ้านและสวน Garden & Farm มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และภาคเอกชน นำโดย SCG ROOF EXPERT บริษัท เอสซีจี ลีฟวิง แอนด์ เฮาส์ซิง โซลูชัน จำกัด ที่เข้ามาผสานความร่วมมือทั้งในมิติการออกแบบ พื้นที่สุขภาวะ นโยบายสาธารณะ ความรู้ด้านเกษตร และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ตามแนวคิด Zero Waste
ภายใต้กิจกรรม “โรงเรียนของเราน่าปลูก” โครงการได้พัฒนาสวนต้นแบบรวม 5 แห่ง ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ได้แก่
“สวนเกษตรน่าปลูก ณ แจ่มจันทร์” โรงเรียนแจ่มจันทร์ เขตวัฒนา
“สวนชมพูพันธุ์ทิพย์” โรงเรียนชุมชนหมู่บ้านพัฒนา เขตคลองเตย
“เกษตรสร้างสุข @ โรงเรียนวัดดอกไม้” โรงเรียนวัดดอกไม้ เขตยานนาวา
“สวนเกษตรริมราง” โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ เขตบางเขน
“สวนย่านาปู่เพี้ยนพิน” โรงเรียนเพี้ยนพินอนุสรณ์ เขตบางนา
แต่ละสวนถูกออกแบบให้เป็น พื้นที่เรียนรู้หลายมิติ ในจุดเดียวกัน
เป็น แปลงปลูกผักและพืชผสมผสาน ที่เหมาะกับฤดูกาล
เป็น ห้องเรียนกลางแจ้ง ให้เด็กเรียนรู้วงจรพืช ดิน น้ำ การดูแลและรับผิดชอบ
เป็น พื้นที่สุขภาวะ ที่เด็กได้ออกแรง ทำงานร่วมกัน และใช้เวลาท่ามกลางธรรมชาติ
เป็น ฐานเรียนรู้เรื่องความมั่นคงและความปลอดภัยทางอาหาร ให้เห็นตั้งแต่เมล็ดพันธุ์จนถึงจานอาหาร
หนึ่งในจุดเด่นของโครงการนี้ คือการดึงภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทด้าน การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ตามแนวคิด Zero Waste โดย SCG ROOF EXPERT นำ “กระเบื้องหลังคาเก่า” จากบ้านลูกค้าที่เดิมมักถูกทิ้งเป็นขยะงานก่อสร้าง กลับมาดัดแปลงใช้เป็นส่วนประกอบของสวนและแปลงปลูกในแต่ละโรงเรียน แทนการใช้วัสดุใหม่ทั้งหมด
สุชาติ ทองธรรมสกุล Technical Sales and Installation Management Director บริษัท เอสซีจี ลีฟวิง แอนด์ เฮาส์ซิง โซลูชัน จำกัด กล่าวว่า การนำกระเบื้องเก่ากลับมาใช้ในสวนเกษตร เป็นตัวอย่างที่จับต้องได้ของแนวคิด Zero Waste ที่ไม่ได้อยู่แค่บนกระดาษ แต่เด็ก ๆ ครู และชุมชน “ได้เห็น ได้สัมผัส และได้เรียนรู้ร่วมกันจริง ๆ” พร้อมเชื่อว่า เมื่อเด็กเข้าใจเรื่องการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและความยั่งยืนตั้งแต่วัยเรียน จะเติบโตไปเป็นคนรุ่นใหม่ที่มอง “ของเหลือใช้” เป็น “โอกาสใหม่” ของสังคม
ที่สวนแห่งนี้ ได้ถูกนิยามให้เป็นมากกว่าเพียงแปลงปลูกผัก แต่เป็น “สามบทบาทในพื้นที่เดียว” คือ
ห้องเรียนกลางแจ้ง
เด็ก ๆ เห็นวงจรชีวิตพืชตั้งแต่เพาะเมล็ด ดูแล รดน้ำ จนถึงการเก็บเกี่ยว เรียนรู้ความรับผิดชอบ การทำงานเป็นทีม และความอดทนจากการลงมือทำจริง
พื้นที่ทดลองแนวคิด Zero Waste
ใช้กระเบื้องเก่าและวัสดุเหลือใช้มาประยุกต์เป็นโครงสร้างสวนและแปลงปลูก แสดงให้เห็นว่า “สิ่งที่คิดว่าหมดค่าแล้ว ยังสร้างประโยชน์ได้” ในเชิงรูปธรรม
จุดเชื่อมต่อชุมชน
ความรู้และประสบการณ์ที่เด็กได้รับในโรงเรียนจะถูกส่งต่อกลับไปที่บ้าน และต่อยอดผ่านครอบครัวและชุมชน ก่อนจะย้อนกลับมาที่โรงเรียน เกิดเป็นวงจรการเรียนรู้ร่วมกันระหว่าง “โรงเรียน–บ้าน–ชุมชน”
กิตติพงษ์ พิพัฒนาโฆษิต New Business Development and Marketing Manager บริษัท เอสซีจี ลีฟวิง แอนด์ เฮาส์ซิง โซลูชัน จำกัด กล่าวว่า
“สวนเกษตรในเมืองที่โรงเรียนทั้ง 5 แห่ง คือจุดเริ่มต้นของต้นแบบพื้นที่สุขภาวะในเมือง ที่สามารถนำไปขยายผลสู่โรงเรียนและชุมชนอื่นๆ ได้ แสดงให้เห็นว่า แม้พื้นที่เมืองจะจำกัด เราก็ยังสร้างพื้นที่สีเขียว สร้างความมั่นคงทางอาหาร และสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมได้จริง”
โครงการ “พัฒนาพื้นที่สุขภาวะด้วยแนวคิดเกษตรในเมือง” ถูกออกแบบให้เป็นทั้ง พื้นที่ปฏิบัติการ (Living Lab) และ กลไกเชิงนโยบาย ไปพร้อมกัน UddC-CEUS ทำหน้าที่ออกแบบผังและรูปแบบพื้นที่เกษตรในโรงเรียนให้เหมาะกับบริบทเมือง รวมทั้งสังเคราะห์องค์ความรู้เพื่อเชื่อมต่อกับนโยบายเมืองในระดับกรุงเทพมหานคร สสส. สนับสนุนในมิติสุขภาวะและการสร้างเสริมพฤติกรรมที่ดีของเด็กและชุมชน
กรุงเทพมหานคร โดยสำนักพัฒนาสังคม สำนักงานเขต และโรงเรียนสังกัด กทม. เติมเต็มมิติการบริหารจัดการพื้นที่และการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่จริง บ้านและสวน Garden & Farm และ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงกับมิติวิชาการ ภาคเอกชน
โครงการนี้คือภาพแทนของ CSR ยุคใหม่ที่ก้าวข้ามการทำกิจกรรมแบบเดิม ไปสู่การสร้าง ระบบนิเวศของเมือง ผ่านพื้นที่เล็ก ๆ ที่ทำงานหลายบทบาทพร้อมกัน ทั้ง Urban Regeneration, Youth Empowerment, Zero Waste System และ Food Security ในโรงเรียนเดียว จุดเล็ก ๆ นี้จึงไม่ใช่แค่ “สวนผัก” แต่เป็นต้นแบบของเมืองที่ออกแบบให้การเรียนรู้ สุขภาวะ ทรัพยากร และชุมชนเชื่อมถึงกันอย่างมีกลไกรองรับ
ที่สำคัญที่สุดคือ เด็กได้สัมผัสความยั่งยืนแบบ “มีชีวิต” ไม่ใช่เพียงคำสวยงามในสไลด์ เมื่อหลังคาเก่ากลับมาเป็นแปลงผัก เมล็ดพันธุ์จากมือเด็กกลายเป็นอาหาร และองค์ความรู้ในโรงเรียนถูกส่งกลับสู่บ้าน ความยั่งยืนจึงกลายเป็นเรื่องสนุก น่าสร้างสรรค์ และจับต้องได้จริง นี่คือผลกระทบเชิงวัฒนธรรมที่ลึกกว่าโครงการใด ๆ เพราะมันกำลังสร้างคนรุ่นใหม่ที่มองเมืองและทรัพยากรด้วยสายตาแบบใหม่







