จระเข้ เดินหน้าปลูกป่าชายเลนปีที่ 2 มุ่งสร้างคาร์บอนเครดิต เตรียมขึ้นทะเบียน T-VER

ไม่ใช่แค่ปลูกป่า แต่คือการปลูกระบบที่ดูแลโลกได้จริง

มิถุนายน 22 , 2025…เปิดแผนดูแลป่าโกงกางพื้นที่กว่า 62.5 ไร่ ต่อเนื่อง 10 ปี ปักหมุด Carbon Neutrality ตามเป้าในปี 2050

บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เดินหน้าโครงการ Jorakay Green Earth ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 พร้อมยกระดับเข้าสู่ การวัดผลและจัดการก๊าซเรือนกระจกตามมาตรฐาน T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) ที่ดำเนินการโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO

การเข้าสู่ระบบ T-VER ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของจระเข้ในการวางรากฐานสู่การสร้าง คาร์บอนเครดิตอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะนำไปใช้ในการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจ พร้อมมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ในปี 2050 และ Net Zero ในปี 2065

หลังจากประสบความสำเร็จในปี 2567 กับการปลูกป่าชายเลน 62.5 ไร่ ในจังหวัดตรัง ปีนี้จระเข้ได้เดินหน้าตรวจสอบความสมบูรณ์ของป่า จัดทำข้อเสนอโครงการ และเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบโดยหน่วยงานภายนอก (Validation and Verification Body: VVB) ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนการขึ้นทะเบียน T-VER อย่างเป็นทางการ

หากโครงการได้รับการรับรอง ป่าชายเลน 62.5 ไร่ของจระเข้จะสามารถสร้างคาร์บอนเครดิตได้มากกว่า 1,200 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในระยะเวลา 10 ปี ซึ่งจะสามารถนำไปใช้ชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรได้โดยตรง

จระเข้ยังคงเดินหน้าร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เครือข่าย Thailand Mangrove Alliance และชุมชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมดูแลผืนป่าชายเลน 62.5 ไร่ไปอีก 10 ปี โดยสนับสนุนงบประมาณระยะยาว และยึดหลัก “ปลูกและดูแลร่วมกับชุมชน”

ในปีแรกของโครงการ กว่า 77% ของงบประมาณโครงการ ถูกจัดสรรเพื่อจ้างแรงงานในพื้นที่ ให้มีส่วนร่วมในการเตรียมพื้นที่ เพาะกล้า ปลูก ดูแล และกำจัดวัชพืช นี่คือการสร้างระบบที่เชื่อมโยง สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และชุมชน ให้เดินหน้าไปด้วยกัน

นอกจากลดคาร์บอน ป่าชายเลนยังช่วยป้องกันชายฝั่ง อนุบาลสัตว์น้ำ และเป็นแหล่งทำกินของชุมชน นี่จึงไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่คือการสร้างความมั่นคงของระบบชีวิต

ศุภพงษ์ เล่าถึงงบประมาณของ Jorakay Green Earth ส่วนหนึ่งมาจากรายได้ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกในกลุ่ม Green Pack ถูกกันไว้อย่างชัดเจนเพื่อนำไปใช้สนับสนุนการปลูกและดูแลป่าชายเลน Green Pack ของจระเข้ คือบรรจุภัณฑ์ที่ใช้กระดาษรีไซเคิล หมึกถั่วเหลือง ลดการใช้พลาสติก และออกแบบให้รีไซเคิลได้ง่าย โดยเปลี่ยนจากบรรจุภัณฑ์หลากสี 33 สี มาเหลือเพียงสีเดียวเพื่อสิ่งแวดล้อม

แม้จะดูเรียบง่าย แต่ Green Pack กลับสื่อสารเรื่อง “ความยั่งยืนที่แท้จริง” สู่ผู้บริโภค โดยสามารถเก็บสินค้าได้นานถึง 8 เดือน และขยายตลาดจากโครงการขนาดใหญ่สู่ร้านค้าทั่วไป

ในขณะเดียวกัน จระเข้ยังปรับเปลี่ยนการดำเนินงานภายในองค์กรอย่างจริงจังเช่น การติดตั้ง Solar Roof ที่โรงงานและสำนักงานใหญ่ ใช้พลังงานสะอาดมากกว่า 30% เปลี่ยนรถ Forklift จากน้ำมันเป็นไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ใช้ ปูน Low Carbon และเคมีภัณฑ์ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม พัฒนาเทคโนโลยีซ่อมพื้นถนนแบบลดวัสดุ ลดพลังงาน จัดอบรมช่างท้องถิ่นเพื่อลดของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพ

จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี วันนี้จระเข้มีสินค้าในกลุ่ม Green Product มากถึง 63% ของพอร์ตสินค้า และ 63% ของยอดขายรวม บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวน Environmental Product Declaration (EPD) จาก 30 รายการในปัจจุบันให้เป็น 60 รายการภายในปีนี้ เพื่อยกระดับความโปร่งใสด้านสิ่งแวดล้อม

โครงการ Jorakay Green Earth คือการพิสูจน์ว่า “การปลูกป่า” ไม่ได้เป็นแค่กิจกรรม CSR แบบปลูกแล้วจบ แต่คือการออกแบบระบบที่จะอยู่กับธรรมชาติไปอีก 10 ปี และส่งต่อคาร์บอนเครดิตที่ตรวจสอบได้จริง

จระเข้ คือองค์กรภาคเอกชนไทยรายแรกในกลุ่มพันธมิตร 33 องค์กรที่ “ลงมือปลูกเอง-ดูแลเอง” และพร้อมจะเป็นต้นแบบของ “การทำจริง” บนเส้นทาง ESG และ Net Zero ในโลกที่กำลังต้องการความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง