ตุลาคม 31,2025…สะพานแห่งนี้สะท้อนพลังของนวัตกรรมและความร่วมมือ ก่อสร้างเสร็จในเพียง 2 เดือนครึ่ง เป็นตัวอย่างของเมืองที่เพิ่มประสิทธิภาพได้จริง ใช้ทรัพยากรเท่าเดิมแต่สร้างผลลัพธ์มากขึ้น
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ร่วมกันกล่าวถึง “สะพานเอสซีจี นวัตกรรมคนไทย ข้ามคลองโอ่งอ่าง” สัญลักษณ์ความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน เพิ่มประสิทธิภาพเมือง ด้วยเทคโนโลยี 3D Printing และวัสดุลดโลกร้อน
“เอสซีจีได้ใช้เทคโนโลยีและวัสดุที่ล้ำสมัยหลายประการในสะพานแห่งนี้ ได้แก่ เทคโนโลยีการพิมพ์คอนกรีต 3 มิติ (3D Printing) ซึ่งมีกำลังอัดสูง คอนกรีต High Performance Concrete (HPC) ที่มีความแข็งแรงสูงกว่าคอนกรีตทั่วไป และปูนซิเมนต์ลดโลกร้อน Generation 3 ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 30% เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้สะพานมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นจุดดึงดูดที่สำคัญในพื้นที่”
ธรรมศักดิ์ กล่าวต่อเนื่อง เอสซีจีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ส่งมอบ “สะพาน เอสซีจีนวัตกรรมคนไทย ข้ามคลองโอ่งอ่าง” ให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้เป็นสาธารณประโยชน์ และเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน
“สะพานแห่งนี้เป็นมากกว่าโครงสร้างพื้นฐาน หากแต่เป็น สัญลักษณ์ของความร่วมมือ ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่ร่วมกันฟื้นฟูคลองโอ่งอ่าง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมือง กรุงเทพฯ จะขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ต้องอาศัยพลังของทุกภาคส่วนร่วมกัน ไม่ใช่แค่ระบบราชการเพียงอย่างเดียว”
ชัชชาติ ขยายความถึงความสำคัญ การมีนวัตกรรมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแข่งขันในโลก สะพานแห่งนี้มีความหมายในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีใหม่และความรวดเร็วในการก่อสร้าง ซึ่งใช้เวลาเพียง 2 เดือนครึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าเราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ โดยเน้นว่าหัวใจของเมืองในตอนนี้ที่เราขาดคือประสิทธิภาพ หากเราช่วยกันพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพ คือการใช้ทรัพยากรเท่าเดิมแต่ได้ผลผลิตมากขึ้น จะทำให้เมืองของเราสามารถแข่งขันกับที่อื่นได้
จากคลองเก่า…สู่แลนด์มาร์กแห่งนวัตกรรมสีเขียว “สะพานจากเทคโนโลยี 3D Printing × วัสดุลดโลกร้อน” @คลองโอ่งอ่าง จึงไม่เพียงเป็นทางข้ามระหว่างสองฝั่งคลอง หากแต่เป็นทางเชื่อมจาก “อดีตสู่อนาคต” ของกรุงเทพฯ
นี่คือภาพสะท้อนของเมืองที่เรียนรู้จะพัฒนาอย่างฉลาด ใช้เทคโนโลยีไม่เพียงเพื่อความรวดเร็ว แต่เพื่อความยั่งยืน สร้างคุณค่าใหม่จากวัสดุที่เป็นมิตรต่อโลก และยืนยันว่า “นวัตกรรมไทย” สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้
