ตุลาคม 10,2025…ภายในปี 2573 และสร้างผลกระทบเชิงบวกสู่ระบบนิเวศและเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 อย่างเป็นรูปธรรม
กลุ่มบริษัทไทยยูเนี่ยน ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก เดินหน้ากลยุทธ์ SeaChange® 2030 เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อทั้ง “คนและโลก” (People & Planet) โดยมีเป้าหมายสู่ Net Zero ภายในปี 2050 ครอบคลุม 11 พันธกิจหลัก ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยแรงงาน และการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน
ปัญจพร คู่สามารถ Head of Corporate Communications และพรภัสรา เอกกุล ผู้จัดการแผนกฝ่ายการพัฒนาที่ยั่งยืนและกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกันอธิบายถึงงานที่ยังทำต่อเนื่อง โดยอาสาสมัครของบริษัท ร่วมกับเจ้าของสถานที่คือภาคประชาชนและภาครัฐที่ศูนย์เรียนรู้และปฎิบัติการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมหาชัยฝั่งตะวันออกจังหวัดสมุทรสาคร ในกิจกรรมวันเก็บขยะชายหาดสากล (International Coastal Cleanup Day) รวมพลังลดขยะพลาสติกจากต้นทาง
กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการลดขยะพลาสติกในทะเลให้ได้ 1,500 ตันภายในปี 2573
ในกิจกรรมดังกล่าว มีผู้เข้าร่วมกว่า 200 คน ประกอบด้วยพนักงานของกลุ่มบริษัทไทยยูเนี่ยน และพันธมิตรจากหลากหลายภาคส่วน เช่น สมุทรสาครพัฒนาเมือง (วิสาหกิจเพื่อสังคม), กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, อบต.โคกขาม, สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร, สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร, วงษ์พาณิชย์อำเภอบ้านแพ้ว รวมถึงอาสาสมัครจากชุมชนและโรงเรียนในพื้นที่
ผลการเก็บขยะครั้งนี้สามารถเก็บได้กว่า 755 กิโลกรัม ส่วนใหญ่เป็นขวดน้ำ ถุงพลาสติก กล่องโฟม ขวดแก้ว และหลอดไฟ โดยอาสาสมัครของไทยยูเนี่ยนได้ทำการคัดแยกและบันทึกข้อมูลตามแนวทางของ International Coastal Cleanup (ICC) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการเก็บข้อมูลขยะทะเล ขยะที่รีไซเคิลได้จะถูกนำไปแปรรูปโดยวงษ์พาณิชย์ ส่วนขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้จะถูกนำไปแปรสภาพเป็นเชื้อเพลิง โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน
“ปัจจุบันมีขยะพลาสติกราว 200 ล้านตันลอยอยู่ในมหาสมุทร ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลและระบบนิเวศชายฝั่ง แต่เราเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ ภายใต้พันธกิจของไทยยูเนี่ยนในการลดขยะพลาสติกในทะเล ในปีที่ผ่านมาเราสามารถลดขยะพลาสติกจำนวน 234 ตันไม่ให้ปนเปื้อนสู่แม่น้ำลำคลองและมหาสมุทร กิจกรรมเก็บขยะป่าชายเลนในครั้งนี้จึงเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงพลังของพนักงาน พันธมิตร และชุมชน ในการร่วมสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง”
Ocean Plastic Reduction: พันธกิจระดับโลกจากสมุทรสาครสู่ 4 ทวีป
กิจกรรมในประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Ocean Clean Up Global Campaign ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมา 3 ปีแล้ว ครอบคลุม 11 ประเทศใน 4 ทวีป โดยมีจุดเริ่มต้นจากจังหวัดสมุทรสาคร บ้านของสำนักงานใหญ่ไทยยูเนี่ยน ปัจจุบันสามารถเก็บขยะได้แล้วกว่า 436 ตัน จากเป้าหมาย 1,500 ตันภายในปี 2030 และเพียงปีนี้ปีเดียวเก็บได้ 17 ตัน จากกิจกรรมในวันทะเลโลก (World Ocean Day)
ขยะที่เก็บได้ส่วนใหญ่เป็นขวดพลาสติก ซองขนม รองเท้าแตะ ขวดแก้ว และโฟมอุตสาหกรรมประมง บางพื้นที่พบขยะขนาดใหญ่ เช่น โซฟาและตู้เย็น ซึ่งทั้งหมดถูกนำไปแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงแทนการฝังกลบ โดยอาศัยความร่วมมือกับภาครัฐ โรงเรียน NGO อย่าง Manta Initiative และ Seven Clean Seas รวมถึงบริษัทลูกในเครือ เช่น EnDu Corporation
ขยายผลด้วยเทคโนโลยีและความร่วมมือระดับชุมชน
ไทยยูเนี่ยนยังพัฒนาโครงการเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บขยะ เช่น
-Sea-Cycle / Second Life: จ้างแรงงานท้องถิ่นเก็บขยะในจังหวัดระนอง กระบี่ และพังงา ตั้งเป้าเก็บขยะได้ 220 ตันต่อปี
-โครงการ Hippo (High-Impact Pollution Remover): ติดตั้งเครื่องดักขยะบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมกับ Seven Clean Seas เพื่อป้องกันไม่ให้ขยะไหลลงทะเล แม้ปริมาณที่ดักได้ยังไม่ถึงเป้า (250 กก. จากเป้าหมาย 35 ตัน/ปี) แต่มีแผนขยาย ทุ่นดักขยะ (River Barrier) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในระยะต่อไป
-โครงการ ARI (Area Recovery Initiative): พัฒนาโดยพันธมิตรจากอังกฤษ ใช้ AI และโดรน ตรวจจับ “อวนผี” ในทะเล พื้นที่นำร่องที่เกาะพะงัน ตั้งเป้าเก็บอวนผี 3,000 กิโลกรัมในช่วงกรกฎาคม–ธันวาคม
ยกระดับความยั่งยืนในห่วงโซ่อาหารทะเลโลก
ภายใต้กลยุทธ์ SeaChange 2030 ไทยยูเนี่ยนยังดำเนินพันธกิจอื่นควบคู่กัน ได้แก่
-Responsible Sourcing: ตรวจสอบแหล่งที่มาปลาทูน่า ซาร์ดีน และแมคเคอเรลกว่า 97% ของห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้มั่นใจว่ามาจากการประมงที่ถูกกฎหมายและยั่งยืน
-Sustainable Aquaculture: โครงการ “กุ้งคาร์บอนต่ำ” ร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) สนับสนุนเกษตรกรไทย
-Sustainable Packaging: ตั้งเป้าให้บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดสามารถรีไซเคิลได้ 100% ภายในปี 2030 ด้วยการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมที่ประเทศเนเธอร์แลนด์
-Labor Welfare: ดูแลแรงงานทั้งในโรงงานและบนเรือประมงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ลดการพึ่งพานายหน้า และสร้างความโปร่งใสในการจ้างงาน
จากสมุทรสาครสู่ทะเลโลก: พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงจากฐานชุมชน
โครงการทั้งหมดนี้ดำเนินภายใต้งบประมาณกว่า 3,500 ล้านบาท (ปี 2021–2030) โดยไทยยูเนี่ยนมุ่งสร้างระบบนิเวศแห่งความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero และ Zero Ocean Plastic ให้เกิดขึ้นจริง
การลงมือเก็บขยะเพียงครั้งเดียวอาจดูเล็กน้อย แต่เมื่อรวมพลังจากคนกว่า 200 คนในสมุทรสาคร และนับหมื่นคนทั่วโลก มันสะท้อน “พลังของความร่วมมือ” ที่เปลี่ยนจากแนวคิด CSR แบบเดิม ไปสู่ “Impact Partnership” ที่สร้างผลลัพธ์จริงต่อท้องทะเล ระบบเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของผู้คนนี่คือจิตวิญญาณของ SeaChange® 2030 ที่ไทยยูเนี่ยนกำลังส่งต่อให้โลกเห็นว่า “การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน เริ่มได้จากมือของเราทุกคน”