ผู้บริหารบลจ.กสิกรไทยกำลังกล่าวถึงแนวคิด “Insight to Impact” และพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนที่ยั่งยืน ผู้บริหารบลจ.กสิกรไทยกำลังกล่าวถึงแนวคิด “Insight to Impact” และพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนที่ยั่งยืน

บลจ.กสิกรไทย คิดและทำแบบผู้นำเชิงรุก ผ่านแนวคิด “Insight to Impact” เชื่อมโยงการลงทุนสู่โลกที่ยั่งยืน

“ผู้นำด้านการลงทุนยั่งยืนของไทย” สำหรับบลจ.กสิกรไทยนับจากนี้อยู่ภายใต้ DNA ในการทำงาน

สิงหาคม 13, 2025…ในโลกที่การลงทุนไม่อาจวัดความสำเร็จได้เพียงตัวเลขผลตอบแทน บลจ.กสิกรไทย (KAsset) กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่า การลงทุนสามารถสร้างอนาคตที่ดีกว่าได้ ทั้งต่อพอร์ตการลงทุน และต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยการก้าวขึ้นเป็น ผู้นำด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investing) อันดับ 1 ของไทย ภายใต้แนวคิด “Insight to Impact”

การที่บลจ.กสิกรไทย เป็นบลจ.แห่งแรกในประเทศไทยที่เข้าร่วมลงนาม Principles for Responsible Investment (PRI Signatory) ซึ่งเป็นหลักการลงทุนที่รับผิดชอบในระดับสากลที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ (United Nations) เมื่อ 4 ปีที่แล้ว  พร้อมรายงานข้อมูลตามกรอบ Task Force for Climate-Related Financial Disclosure (TCFD)  และเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านทุจริต (CAC) ตั้งแต่ปี 2556 นับเป็นการวางแนวทางธรรมาภิบาล เป็นพื้นฐานของธุรกิจ

ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจในการเป็น “ผู้นำด้านการลงทุนยั่งยืนของไทย” สำหรับบลจ.กสิกรไทยนับจากนี้อยู่ภายใต้ DNA ในการทำงาน

ผู้บริหารบลจ.กสิกรไทยกำลังกล่าวถึงแนวคิด “Insight to Impact” และพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนที่ยั่งยืน
ผู้บริหารบลจ.กสิกรไทยกำลังกล่าวถึงแนวคิด “Insight to Impact” และพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนที่ยั่งยืน

บลจ.กสิกรไทย ตั้งใจเป็นพันธมิตรที่นักลงทุนเชื่อถือได้ ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์และคำแนะนำด้านการลงทุนที่ตอบโจทย์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นกองทุน ESG ที่มุ่งสร้างผลตอบแทนควบคู่กับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือกองทุนที่มุ่งเน้นสร้างประโยชน์ต่อสังคม (Impact Funds) ทุกผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบด้วยข้อมูลเชิงลึกและมาตรฐานสากล เพื่อให้มั่นใจว่าลงทุนแล้วได้ทั้งกำไรและความยั่งยืน

ผู้บริหารบลจ.กสิกรไทยกำลังกล่าวถึงแนวคิด “Insight to Impact” และพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนที่ยั่งยืน

การลงทุนของ KAsset ไม่ใช่แค่การถือครองสินทรัพย์ แต่เป็นการมีส่วนร่วมเชิงรุกกับกิจการที่ลงทุน เพื่อผลักดันให้บริษัทเหล่านั้นดำเนินงานตามมาตรฐาน ESG อย่างจริงจัง ทุกหุ้นและตราสารหนี้ที่ลงทุนต้องมีคะแนน ESG  (โดยบางผลิตภัณฑ์อาจจะสูงกว่า 80% ตามข้อกำหนด) พร้อมกระบวนการพบปะผู้บริหารและประเมินมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างต่อเนื่อง

ความโปร่งใส คือหัวใจของความเชื่อมั่น บลจ.กสิกรไทย  เป็นผู้นำด้านธรรมาภิบาลการลงทุน โดยเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานด้าน ESG อย่างละเอียดตามมาตรฐานสากล พร้อมรายงานความคืบหน้าเป็นประจำ เพื่อให้ผู้ลงทุนและสังคมเห็นว่าผลลัพธ์ของการลงทุนยั่งยืนนั้นเกิดขึ้นจริง  

บลจ.กสิกรไทย มุ่งลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ทั้งในระดับการดำเนินงานขององค์กรและพอร์ตลงทุน ภายในปี 2030 ซึ่งรวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ลดขยะในสำนักงาน และวางแผนเปลี่ยนรถองค์กรทั้งหมดเป็น EV นี่คือการลงมือทำตั้งแต่ภายในองค์กร จนถึงการสร้างแรงจูงใจให้บริษัทที่ลงทุนเดินหน้าในทิศทางเดียวกัน

ผู้บริหารบลจ.กสิกรไทยกำลังกล่าวถึงแนวคิด “Insight to Impact” และพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนที่ยั่งยืน

“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทย เดินหน้าขับเคลื่อนความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง และในปี 2024 ได้ประกาศความร่วมมือกับ ลอมบาร์ด โอเดียร์ (Lombard Odier) สถาบันการเงินระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ในฐานะพันธมิตรที่ปรึกษา เพื่อพัฒนากลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ Sustainable Investment ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล”

วินขยายความต่อเนื่อง ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย ครองอันดับ 1 ส่วนแบ่งตลาด ESG Fund และ SRI Fund ของไทย ด้วยมูลค่า AUM กว่า 32,000 ล้านบาท และ 30,900 ล้านบาท คิดเป็น 28.8% และ 37.3% ตามลำดับ  

-K-TNZ-ThaiESG: กองทุนหุ้น ThaiESG ใหญ่ที่สุดในไทย มูลค่า 2,980 ล้านบาท และเป็นกองทุนแรก-เดียวที่หนุนเป้าหมาย Net Zero
-K-ESGSI-ThaiESG: กองทุนตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนภาครัฐใหญ่ที่สุด มูลค่า 6,270 ล้านบาท
-K-CHANGE: กองทุนหุ้น ESG ต่างประเทศใหญ่ที่สุด มูลค่า 15,000 ล้านบาท

(ที่มา : AIMC ณ วันที่ 30 มิ.ย. 68) 

บลจ.กสิกรไทย ตั้งเป้า Net Zero ทั้งในมิติการลงทุนและการดำเนินงาน โดยมุ่งสู่ Net Zero AUM Emission ภายในปี 2065 ผ่านกองทุน K-Target Net Zero ที่ลงทุนในบริษัทที่มีเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกอย่างชัดเจน พร้อมประเมินความเสี่ยงภูมิอากาศตามแนวทาง Task Force for Climate-Related Financial Disclosure (TCFD) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

ในด้านการดำเนินงานองค์กร ตั้งเป้า Net Zero ใน Scope 1 และ 2 ภายในปี 2030 โดยปี 2024 ลดการใช้น้ำมันดีเซลลง 41% พร้อมแผนเปลี่ยนรถทั้งหมดเป็น EV ภายใน 5 ปี และใช้ใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (RECs) เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ไฟฟ้าเป็นศูนย์ ขณะที่การจัดการขยะลดขยะรวม 20% และลดขยะฝังกลบได้ 52% จากปีก่อน

ผู้บริหารบลจ.กสิกรไทยกำลังกล่าวถึงแนวคิด “Insight to Impact” และพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนที่ยั่งยืน

ความสำเร็จด้านความยั่งยืนของ บลจ.กสิกรไทย ในช่วงที่ผ่านมา ได้สร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในทุกมิติของ ESG

ผู้บริหารบลจ.กสิกรไทยกำลังกล่าวถึงแนวคิด “Insight to Impact” และพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนที่ยั่งยืน
ผู้บริหารบลจ.กสิกรไทย

การเน้นแนวทาง ESG ทำให้ บลจ.กสิกรไทย สามารถสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า ซึ่งช่วยให้ลูกค้าเห็นว่า บลจ.กสิกรไทย ไม่เพียงแต่ดูแลผลตอบแทนการลงทุน แต่ยังให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนและสังคม นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังถือเป็นบริษัทจัดการการลงทุนที่มีส่วนแบ่งตลาดในด้านผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับความยั่งยืนสูงสุดในประเทศไทย ส่งผลให้สามารถสร้างแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งในตลาดทุน

ผู้บริหารบลจ.กสิกรไทยกำลังกล่าวถึงแนวคิด “Insight to Impact” และพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังคงยึดมั่นในความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย โดยพร้อมเป็นหนึ่งแรงขับเคลื่อนในการยกระดับมาตรฐานการลงทุนอย่างยั่งยืนของไทยสู่มาตรฐานสากล