กรกฎาคม 13,2025….สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของสถาบันการเงินชั้นนำอย่างธนาคารซิตี้แบงก์และมูลนิธิซิตี้ในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางสังคมด้วยความรับผิดชอบและความมุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเท่าเทียมสำหรับทุกคน
เป้าหมาย
แนวทางการดำเนินงาน
มูลนิธิซิตี้ (Citi Foundation) ตอกย้ำพันธกิจการส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความรับผิดชอบทางสังคม สนับสนุนทุน 16.5 ล้านบาทให้มูลนิธิแบงค็อก คอมมูนิตี้ เฮลป์ (Bangkok Community Help Foundation) จัดตั้ง Center of Dreams ศูนย์พักพิงคนไร้บ้านแห่งแรกในกรุงเทพฯ ชั้นใน ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน อีกทั้งมีการจัดอบรมทักษะทางสังคมและการฝึกอาชีพ โดยภายในปีนี้ศูนย์ฯ ได้ตั้งเป้าขยายศักยภาพการให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้คนไร้บ้านสามารถประกอบอาชีพและดำรงชีพด้วยตนเองได้อีกครั้ง
โครงการ Center of Dreams ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้บริการที่พักอาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานสำหรับคนไร้บ้านในชุมชนคลองเตยล็อค 4 มีการจัดกิจกรรมอบรมพัฒนาทักษะทางวิชาชีพและสังคมต่าง ๆ เช่น เวิร์กชอปเรียนรู้ตัวเอง การฝึกอาชีพ และการแนะแนวการสมัครงาน รวมถึงมีการจัดระบบสนับสนุนด้านจิตใจและสุขภาพร่างกายผ่านการดูแลของทีมผู้เชี่ยวชาญ
ความคิดเห็นจากผู้บริหาร
ตัวแทนองค์กร
นฤมล จิวังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย และตัวแทนมูลนิธิซิตี้ ได้กล่าวย้ำว่า
“ปัญหาทางสังคมในประเทศไทยมีความซับซ้อนและขยายตัวในวงกว้าง ภาคเอกชนจึงมีบทบาทในการร่วมระบุปัญหาและให้ความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง ซิตี้แบงก์ในฐานะสถาบันการเงินชั้นนำ มีความมุ่งมั่นส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุนและสร้างโอกาสทางอาชีพให้กับเยาวชน รวมถึงเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนทั่วประเทศ”
ซิตี้แบงก์ ร่วมส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจแก่ชุมชนทั่วโลกผ่านการดำเนินโครงการของมูลนิธิซิตี้ ที่มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุน สร้างโอกาสทางอาชีพแก่เยาวชน และเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้ชุมชน เพื่อเป็นรากฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคง

ในส่วนของมูลนิธิแบงค็อก คอมมูนิตี้ เฮลป์ ตัวแทนขององค์กร คือ ฟรีโซ โพเดอร์วาดร์ และ เกรกอรี่ แลงค์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ พร้อมด้วย ศณิศา จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้ประสานโครงการฯ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า
“ในขณะนี้กรุงเทพฯ มีคนไร้บ้านอยู่เป็นจำนวนมาก ศูนย์ Center of Dreams ได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเติมเต็มช่องว่างในบริการและการเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมถึงการฝึกทักษะที่จำเป็นในการกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง การดำเนินงานของทางศูนย์ฯ ได้ผนึกความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาสังคม ตั้งแต่การลงพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขต และเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ สำรวจคนไร้บ้านในกรุงเทพฯ ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ หากผ่านการคัดกรองสุขภาพและประวัติอาชญากรรม จะถูกส่งมาพักพิงที่ Center of Dreams เป็นระยะเวลา 90 วัน เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและเตรียมความพร้อมในการกลับสู่สังคม โดยทางศูนย์ฯ ยังช่วยเหลือค่าเดินทางและประสานส่งคนไร้บ้านกลับภูมิลำเนาเดิม รวมถึงอำนวยความสะดวกในการหาตำแหน่งงานกับองค์กรพันธมิตร หรือส่งต่อคนไร้บ้านไปยังศูนย์พักพิงอื่นตามความเหมาะสม ซึ่งภายในระยะเวลา 4 เดือน สามารถให้ความช่วยเหลือคนไร้บ้านได้แล้วถึง 21 ราย ”
แผนและวิสัยทัศน์
ในอนาคต
มูลนิธิซิตี้และมูลนิธิแบงค็อก คอมมูนิตี้ เฮลป์ได้วางแผนพัฒนาและขยายบริการของ Center of Dreams อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าที่จะช่วยเหลือคนไร้บ้านกลับเข้าสู่สังคมไม่น้อยกว่า 150 รายภายในปี 2569 โดยนอกจากการขยายบริการในด้านที่พักและอบรมทักษะแล้ว ยังมีการเตรียมเปิดบริการที่ปรึกษาสุขภาพจิตและความร่วมมือกับโรงเรียนอาชีวศึกษาเพื่อเพิ่มหลักสูตรการอบรมวิชาชีพอย่างครอบคลุมอีกด้วย
ทั้งนี้ โครงการ Global Innovation Fund ของซิตี้มีงบประมาณรวม 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จัดสรรให้กับโครงการทั่วโลก โดยมุ่งเน้นการสร้างความเปลี่ยนแปลงในชุมชนอย่างแท้จริง ผ่านความร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหากำไรและภาคส่วนต่าง ๆ ในระดับภายในประเทศและระดับสากล
เสริมพลังด้วย Social Enterprise
ทางเลือกใหม่ของการจ้างงานเพื่อคนไร้บ้าน
ศูนย์พักพิงคนไร้บ้าน “Center of Dreams” ภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิซิตี้และมูลนิธิแบงค็อก คอมมูนิตี้ เฮลป์ ไม่เพียงมุ่งให้ที่พักพิงและทักษะพื้นฐาน แต่ยังวางเป้าหมายร่วมมือกับภาคธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสในการจ้างงานอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะ “ธุรกิจเพื่อสังคม” หรือ Social Enterprise (SE) ซึ่งกำลังเติบโตในประเทศไทย
หลาย SE ไทยเริ่มมีแนวทางเปิดรับ “กลุ่มเปราะบาง” ซึ่งรวมถึงคนไร้บ้าน การเชื่อมต่อระหว่าง Center of Dreams กับ SE เหล่านี้ ไม่เพียงช่วยให้กลุ่มคนไร้บ้านสามารถมีรายได้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังช่วยให้พวกเขากลับเข้าสู่สังคมด้วยศักดิ์ศรีและคุณค่าที่ตนเองสร้างขึ้น พร้อมทั้งเติมเต็มระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและเป้าหมาย SDGs ในด้านการลดความเหลื่อมล้ำ (SDG10) และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ (SDG8) อย่างยั่งยืน