เอสซีจีชูธงผู้นำปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ @เวที INTERCEM Asia 2025

11 พฤษภาคม 2568…งาน INTERCEM Asia 2025 ไม่เพียงเป็นเวทีแสดงศักยภาพ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านที่ขับเคลื่อนโดยภาคธุรกิจไทยที่มองไกล ทั้งในมิติ ESG และการเติบโตอย่างยั่งยืน

11 พฤษภาคม 2568…งาน INTERCEM Asia 2025 ไม่เพียงเป็นเวทีแสดงศักยภาพ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านที่ขับเคลื่อนโดยภาคธุรกิจไทยที่มองไกล ทั้งในมิติ ESG และการเติบโตอย่างยั่งยืน

เอสซีจีร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ระดับโลก INTERCEM Asia 2025 ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คนจาก 52 ประเทศ เอสซีจีเดินหน้าต่อยอดวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืน ด้วยการชูแนวคิด Inclusive Green Growth และนวัตกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ (Low-carbon Cement) ซึ่งตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม

 

เอสซีจีมีการนำเสนอข้อมูลในเรื่อง SCG’s Inclusive Green Growth: มุมมองเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นความยั่งยืน และนวัตกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ รวมไปถึงการนำเสนอเนื้อหาเรื่อง Saraburi Sandbox: ต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำที่แสดงให้เห็นถึงการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมกรีนของเอสซีจี รวมถึงการจับมือกับพันธมิตร มาประยุกต์ใช้ในบริบทจริง

 

ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ มีความพร้อมในการขับเคลื่อนนวัตกรรมกรีนเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมชูแนวทางNet Zero อย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นจุดแข็งด้านนวัตกรรม Low-carbon Cement และโซลูชันงานก่อสร้างอย่างยั่งยืน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย และตลาดโลก

 

บน…SCG 3D Printing ระบบพิมพ์ขึ้นรูปปูนคาร์บอนต่ำ รองรับงานออกแบบซับซ้อน
ล่าง…TORA S-ONE เครื่องพ่นฉาบปูนระบบดีเซล ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานกว่า 40%

ในงานยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสนวัตกรรมจริง เช่น

-SCG 3D Printing ระบบพิมพ์ขึ้นรูปปูนคาร์บอนต่ำ รองรับงานออกแบบซับซ้อน

-TORA S-ONE เครื่องพ่นฉาบปูนระบบดีเซล ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานกว่า 40%

สุรชัย นิ่มละออ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และกรีนโซลูชัน กล่าวในท้ายที่สุดถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า

“ความร่วมมือวันนี้ คือรากฐานของอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนเราพร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้เดินหน้าด้วยนวัตกรรมกรีน สอดรับกับเป้าหมาย Net Zero และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการก่อสร้างในภูมิภาคเอเชีย”